Midjournay AI และการสร้างภาพจากข้อความ
Midjournay AI และการสร้างภาพจากข้อความ ก่อนที่เราจะเจาะลึกเรื่อง Midjourney แอดบิวอยากชวนเพื่อนๆ มาสำรวจโลกของภาพที่สร้างด้วย AI กันก่อนครับ เราจะมาดูกันว่าภาพเหล่านี้ทำงานยังไง มีข้อดีข้อเสียอะไรบ้าง และมีกฎเกณฑ์อะไรที่เกี่ยวข้องกับการใช้งานครับ
เทคโนโลยีที่น่าทึ่งเบื้องหลังภาพ AI
เทคโนโลยีที่น่าทึ่งเบื้องหลังภาพ AI แอดบิวจะพาเพื่อนๆ ไปรู้จักกับเทคโนโลยีสุดล้ำที่อยู่เบื้องหลังการสร้างภาพด้วย AI และความสำคัญของ AI ในการสร้างภาพครับ เราจะได้เห็นว่า AI เรียนรู้และสร้างภาพใหม่ๆ ได้อย่างไร ตั้งแต่การเก็บข้อมูลภาพ การฝึกฝนโมเดล ไปจนถึงการสร้างภาพที่ไม่เคยมีมาก่อน เรียกได้ว่าเป็นกระบวนการที่น่าทึ่งมากๆ เลยครับ
ข้อดีและข้อเสียของภาพที่สร้างด้วย AI
ข้อดีและข้อเสียของภาพที่สร้างด้วย AI เราจะมาพูดคุยกันถึงประโยชน์และข้อจำกัดของภาพ AI กันครับ ทั้งในแง่ของความสร้างสรรค์ ความรวดเร็วในการผลิต และความหลากหลายของภาพที่สร้างได้ แต่ก็จะพูดถึงข้อกังวลต่างๆ ด้วย เช่น ผลกระทบต่อศิลปินมนุษย์ หรือปัญหาเรื่องลิขสิทธิ์ครับ
กฎหมายและจริยธรรมที่เกี่ยวข้อง
กฎหมายและจริยธรรมที่เกี่ยวข้อง แอดบิวจะอธิบายให้เพื่อนๆ เข้าใจเกี่ยวกับกฎหมายและจริยธรรมที่เกี่ยวข้องกับการใช้ภาพ AI ครับ เราจะพูดถึงเรื่องลิขสิทธิ์ การใช้งานอย่างเป็นธรรม และความรับผิดชอบของผู้ใช้งาน เพื่อให้เพื่อนๆ สามารถใช้งานภาพ AI ได้อย่างถูกต้องและมีความรับผิดชอบครับ
เตรียมตัวให้พร้อมนะครับเพื่อนๆ เพราะเรากำลังจะออกเดินทางไปผจญภัยในโลกของภาพที่สร้างด้วย AI กัน แอดบิวรับรองว่าจะเป็นการเดินทางที่น่าตื่นเต้นและให้ความรู้มากมายเลยครับ สามารถสร้างสรรค์งานศิลปะต่างๆได้อย่างไม่รู้จบเลยครับ
เทคโนโลยีเบื้องหลังภาพ AI
ภาพรวมของเทคโนโลยีการสร้างภาพด้วย AI ที่ใช้สร้างภาพนั้นทำงานโดยใช้อัลกอริทึมปัญญาประดิษฐ์เพื่อสร้างภาพใหม่ๆ ขึ้นมา กระบวนการนี้มักจะเริ่มจากการฝึกฝนโมเดล AI ด้วยชุดข้อมูลภาพจำนวนมาก แล้วใช้โมเดลที่ฝึกฝนแล้วนี้สร้างภาพใหม่ตามรูปแบบและโครงสร้างที่ได้เรียนรู้มา
แอดบิวจะอธิบายขั้นตอนต่างๆ แบบง่ายๆให้เห็นภาพนะครับสำหรับ วิธีการทำงานของ AI ในการสร้างภาพ
- การเก็บรวบรวมข้อมูล ขั้นแรกเลยคือต้องรวบรวมชุดข้อมูลภาพขนาดใหญ่มาใช้ฝึกฝนโมเดล AI ครับ ภาพพวกนี้อาจจะเป็นภาพถ่าย ภาพวาด หรือภาพประเภทอื่นๆ ก็ได้
- การฝึกฝนโมเดล จากนั้นก็เอาข้อมูลภาพที่รวบรวมมานี้ไปใช้ฝึกฝนโมเดล AI ครับ โดยทั่วไปแล้วจะใช้โครงข่ายประสาทเทียมแบบลึก (deep neural network) โมเดลจะเรียนรู้รูปแบบและโครงสร้างที่ซับซ้อนจากข้อมูลภาพเหล่านี้
- การแทนค่าในพื้นที่แฝง โมเดลจะเรียนรู้วิธีการแทนค่าภาพในรูปแบบที่ถูกบีบอัดให้มีมิติน้อยลง เราเรียกพื้นที่นี้ว่า “พื้นที่แฝง” หรือ latent space ครับ การปรับเปลี่ยนจุดต่างๆ ในพื้นที่แฝงนี้จะทำให้โมเดลสามารถสร้างภาพใหม่ๆ ได้
- การสุ่มตัวอย่างและการสร้างภาพ เมื่อฝึกฝนเสร็จแล้ว ระบบ AI จะสร้างภาพใหม่โดยการสุ่มตัวอย่างจุดต่างๆ ในพื้นที่แฝง แล้วถอดรหัสจุดเหล่านั้นกลับมาเป็นภาพในพื้นที่ภาพจริง
- การประมวลผลภาพหลังการสร้าง ภาพที่สร้างขึ้นมาอาจจะถูกปรับแต่งเพิ่มเติมด้วยเทคนิคต่างๆ เช่น การปรับสี การเพิ่มรายละเอียด หรือการใส่ฟิลเตอร์ศิลปะต่างๆ
แอดบิวต้องบอกด้วยว่ามีหลายอัลกอลิทึมที่ใช้สร้างภาพด้วย AI นะครับ เช่น Latent Diffusion Models (LDM) Variational Autoencoders (VAEs) และ Generative Adversarial Networks (GANs) พวกนี้ใช้โครงสร้างที่แตกต่างกัน แต่ก็ยังคงใช้หลักการพื้นฐานคล้ายๆ กัน
การสร้างภาพด้วย AI นี้มีประโยชน์มากมายเลยครับ ทั้งในด้านคอมพิวเตอร์กราฟิก การสร้างสรรค์งานศิลปะ และยังช่วยในการฝึกฝนโมเดล AI อื่นๆ ด้วย คุณภาพของภาพที่สร้างขึ้นนั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ความซับซ้อนของโมเดล และขนาดของชุดข้อมูลที่ใช้ฝึกฝนครับ
ข้อดีและประโยชน์ของการใช้ AI สร้างภาพ
ประหยัดเวลา
AI สามารถสร้างภาพคุณภาพสูงได้ในเวลาเพียงไม่กี่นาทีครับ ลองนึกภาพดูนะครับ ถ้าเราต้องวาดภาพประกอบสำหรับหนังสือสักเล่ม อาจต้องใช้เวลาหลายวันหรือหลายสัปดาห์ แต่ด้วย AI เราสามารถสร้างภาพประกอบทั้งหมดได้ภายในไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น นี่ช่วยให้เราประหยัดเวลาได้มากและสามารถนำเวลาไปทำอย่างอื่นที่สำคัญกว่าได้
คุ้มค่า
การจ้างศิลปินหรือนักออกแบบมืออาชีพอาจมีค่าใช้จ่ายสูงมากครับ แต่เมื่อใช้ AI เราสามารถลดค่าใช้จ่ายส่วนนี้ลงได้อย่างมาก ยกตัวอย่างเช่น บริษัทเล็กๆ ที่ต้องการภาพประกอบสำหรับเว็บไซต์ แทนที่จะต้องจ้างนักออกแบบ พวกเขาสามารถใช้ AI สร้างภาพได้ด้วยต้นทุนที่ต่ำกว่ามาก ทำให้ประหยัดงบประมาณได้เยอะเลยครับ
เพิ่มความคิดสร้างสรรค์
สามารถในการสร้างภาพที่แปลกใหม่และไม่คาดคิดครับ บางครั้งอาจให้ไอเดียที่เราคิดไม่ถึง เช่น ถ้าเราขอให้ AI วาดภาพ “แมวในอวกาศ” มันอาจสร้างภาพที่มีองค์ประกอบแปลกๆ ที่เราไม่เคยนึกถึงมาก่อน ซึ่งอาจจุดประกายความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ ให้กับเราได้
ขยายงานได้ง่าย
เทคโนโลยี AI สามารถสร้างภาพจำนวนมากได้อย่างรวดเร็วครับ นี่เป็นประโยชน์มากสำหรับงานที่ต้องใช้ภาพเยอะๆ เช่น แคมเปญโฆษณาที่ต้องการภาพหลายๆ แบบ หรือนักเขียนที่ต้องการภาพประกอบจำนวนมากสำหรับหนังสือ AI สามารถสร้างภาพเหล่านี้ได้อย่างรวดเร็วและมีความหลากหลาย ทำให้เราสามารถขยายขอบเขตของงานได้มากขึ้น
เข้าถึงง่าย
AI ทำให้การสร้างภาพกลายเป็นเรื่องที่ใครๆ ก็ทำได้ครับ ไม่จำเป็นต้องมีทักษะด้านศิลปะหรือการออกแบบก็สามารถสร้างภาพสวยๆ ได้ เช่น คนที่ทำบล็อกส่วนตัวสามารถสร้างภาพประกอบสวยๆ สำหรับบทความได้เอง หรือนักเรียนก็สามารถสร้างภาพประกอบสำหรับรายงานได้โดยไม่ต้องพึ่งพาคนอื่น นี่ทำให้การสร้างสรรค์ภาพเป็นเรื่องที่ทุกคนเข้าถึงได้ง่ายขึ้นมากครับ
Midjourney คืออะไร
Midjourney เป็นเครื่องมือสร้างภาพศิลปะด้วย AI ที่ช่วยให้เราสร้างสรรค์งานสวยๆ ได้ง่ายๆ มันทำงานโดยใช้เทคโนโลยีการเรียนรู้ของเครื่องที่เรียกว่า Machine Learning วิธีใช้ก็ง่ายมาก เราแค่พิมพ์บอกว่าอยากเห็นภาพแบบไหน แล้ว Midjourney ก็จะสร้างภาพตามที่เราต้องการออกมาให้เลย
ความพิเศษของ Midjourney อยู่ตรงที่มันสร้างภาพที่สวยงามและมีความเฉพาะตัวได้ ใครๆ ก็สามารถใช้มันสร้างงานศิลปะได้ ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่หรือศิลปินมืออาชีพ ทำให้มันเหมาะมากสำหรับใช้ในงานสร้างสรรค์ต่างๆ
Midjourney คล้ายกับเครื่องมือ AI ตัวอื่นๆ อย่างเช่น DALL-E 2 ทั้งสองตัวนี้ใช้วิธีการคล้ายๆ กันในการสร้างภาพจากคำอธิบายของเรา แต่แต่ละตัวก็จะมีเอกลักษณ์และจุดเด่นเฉพาะตัว มันเป็นเครื่องมือที่น่าสนใจมากๆ สำหรับคนที่ชอบงานศิลปะหรืออยากลองสร้างภาพสวยๆ ด้วยตัวเอง ลองเล่นดูสิ รับรองว่าสนุกแน่นอนครับ
จุดเด่นของ Midjourney
Midjourney เป็นเครื่องมือสร้างภาพด้วย AI ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในวงการศิลปะและการออกแบบ มาดูกันว่าทำไม Midjourney ถึงได้รับการยอมรับว่าเป็นเครื่องมือที่ดีที่สุดในปัจจุบัน
ความแม่นยำสูง
Midjourney ใช้ระบบเครือข่ายประสาทเทียมขั้นสูงในการสร้างภาพ ทำให้ภาพที่ออกมามีความแม่นยำสูงและตรงกับคำอธิบายที่ผู้ใช้ป้อนเข้าไป ไม่ว่าจะเป็นรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ อย่างลวดลายบนเสื้อผ้า หรือองค์ประกอบหลักของภาพอย่างโครงสร้างของอาคาร Midjourney สามารถสร้างออกมาได้อย่างละเอียดและสมจริง นอกจากนี้ ยังสามารถเข้าใจและแปลความหมายของคำสั่งที่ซับซ้อนได้ดี เช่น การผสมผสานแนวคิดที่แตกต่างกัน หรือการสร้างภาพที่มีอารมณ์และบรรยากาศเฉพาะ
คลังสไตล์หลากหลาย
Midjourney มีคลังสไตล์ที่หลากหลายมากถึง 800 แบบ และมีรายชื่อศิลปินให้เลือกถึง 700 คน ทำให้ผู้ใช้สามารถควบคุมผลงานได้อย่างอิสระและสร้างสรรค์ คุณสามารถเลือกสไตล์ตั้งแต่ศิลปะยุคเรอเนสซองส์ไปจนถึงศิลปะร่วมสมัย หรือจะเลือกสร้างภาพในสไตล์ของศิลปินที่คุณชื่นชอบก็ได้ ไม่ว่าจะเป็น Vincent van Gogh, Frida Kahlo หรือแม้แต่ศิลปินร่วมสมัยอย่าง Banksy คลังสไตล์นี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถทดลองและค้นพบสไตล์ใหม่ๆ ที่อาจไม่เคยนึกถึงมาก่อน
ใช้งานง่าย
แม้ว่า Midjourney จะมีความสามารถสูง แต่ก็ออกแบบมาให้ใช้งานง่าย หน้าตาโปรแกรมเรียบง่าย ไม่ซับซ้อน ผู้ใช้เพียงแค่พิมพ์คำอธิบายภาพที่ต้องการ แล้ว AI จะสร้างภาพให้ นอกจากนี้ยังมีคู่มือและบทช่วยสอนที่ละเอียด ทำให้ผู้ใช้ทุกระดับ ตั้งแต่มือใหม่ไปจนถึงผู้เชี่ยวชาญ สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ Midjourney ยังมีชุมชนผู้ใช้ที่ใหญ่และเป็นมิตร คอยช่วยเหลือและแบ่งปันเทคนิคต่างๆ ทำให้การเรียนรู้และพัฒนาทักษะเป็นไปอย่างรวดเร็ว
ความหลากหลายในการใช้งาน
Midjourney ไม่ได้จำกัดอยู่แค่การสร้างภาพศิลปะเท่านั้น แต่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้กับงานหลากหลายประเภท เช่น การออกแบบโลโก้ การสร้างภาพประกอบหนังสือ การออกแบบคาแรคเตอร์ การสร้างคอนเซ็ปต์อาร์ตสำหรับเกมหรือภาพยนตร์ หรือแม้แต่การสร้างภาพโฆษณาสำหรับธุรกิจ ความยืดหยุ่นนี้ทำให้ Midjourney เป็นเครื่องมือที่คุ้มค่าสำหรับทั้งศิลปินอิสระ บริษัทออกแบบ และองค์กรขนาดใหญ่
การพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
ทีมงาน Midjourney มุ่งมั่นในการพัฒนาโปรแกรมอย่างสม่ำเสมอ มีการอัพเดทฟีเจอร์ใหม่ๆ และปรับปรุงอัลกอริทึมอยู่เรื่อยๆ ทำให้คุณภาพของภาพที่สร้างขึ้นดีขึ้นเรื่อยๆ นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มความสามารถใหม่ๆ เช่น การสร้างภาพเคลื่อนไหว หรือการสร้างภาพ 3 มิติ ซึ่งทำให้ Midjourney เป็นเครื่องมือที่ทันสมัยและตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้อยู่เสมอ
ประวัติและพัฒนาการของ Midjourney
Midjourney ก่อตั้งโดย David Holz ผู้ร่วมก่อตั้ง Leap Motion ซึ่งเป็นบริษัทที่พัฒนาเทคโนโลยีการติดตามการเคลื่อนไหวของมือ บริษัทตั้งอยู่ที่ซานฟรานซิสโก แคลิฟอร์เนีย และเปิดตัวครั้งแรกเมื่อ 12 กรกฎาคม 2022 ในช่วงแรกของการพัฒนา ทีมงาน Midjourney ได้ขอความร่วมมือจากผู้ใช้ในเซิร์ฟเวอร์ Discord ให้ส่งรูปภาพคุณภาพสูงมาช่วยในการฝึกระบบ AI วิธีการนี้ช่วยให้ Midjourney สามารถเรียนรู้และเข้าใจรูปแบบของภาพที่หลากหลายได้อย่างรวดเร็ว
ตั้งแต่เปิดตัว Midjourney ได้รับความสนใจอย่างล้นหลามจากทั้งศิลปิน นักออกแบบ และคนทั่วไปที่สนใจในเทคโนโลยี AI การเติบโตอย่างรวดเร็วนี้ทำให้ Midjourney กลายเป็นหนึ่งในผู้นำด้านการสร้างภาพด้วย AI ในเวลาอันสั้น ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา Midjourney ได้พัฒนาและออกเวอร์ชันใหม่มาอย่างต่อเนื่อง แต่ละเวอร์ชันมาพร้อมกับการปรับปรุงคุณภาพของภาพ เพิ่มความสามารถในการเข้าใจคำสั่งที่ซับซ้อน และเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้
ด้วยจุดเด่นทั้งหมดนี้ ทำให้ Midjourney ได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในเครื่องมือสร้างภาพด้วย AI ที่ดีที่สุดในปัจจุบัน และยังคงมีแนวโน้มที่จะพัฒนาต่อไปในอนาคต
Subscribtion Plan ของ Midjourney
Midjourney มีแพ็กเกจให้เลือก 4 แบบ ตั้งแต่ราคาถูกไปแพง ดังนี้
- แพ็กเกจเริ่มต้น ราคา $10 ต่อเดือน ใช้งาน Fast GPU ได้ 3.3 ชั่วโมงต่อเดือน
- แพ็กเกจมาตรฐาน ราคา $30 ต่อเดือน ใช้งาน Fast GPU ได้ 15 ชั่วโมงต่อเดือน
- แพ็กเกจโปร ราคา $60 ต่อเดือน ใช้งาน Fast GPU ได้ 30 ชั่วโมงต่อเดือน
- แพ็กเกจเมกา ราคา $120 ต่อเดือน ใช้งาน Fast GPU ได้ 60 ชั่วโมงต่อเดือน
ยิ่งแพงยิ่งได้เวลาใช้งานมาก และมีฟีเจอร์พิเศษเพิ่ม เช่น โหมดซ่อนตัว ในแพ็กเกจโปรและเมกะแพลนทุกแพ็กเกจสามารถซื้อเวลาเพิ่มได้ชั่วโมงละ $4 เท่ากันหมด ถ้าสมัครเป็นรายปีจะถูกกว่าจ่ายรายเดือนประมาณ 20% สุดท้าย ทุกแพ็กเกจใช้งานเพื่อการค้าได้ และมีโอกาสได้เวลาฟรีจากการให้คะแนนรูปภาพ
เพื่อนๆครับ ถึงเวลาแล้วที่เราจะก้าวไปสู่การเป็นผู้เชี่ยวชาญด้าน Midjourney กันแบบเต็มตัว แอดบิวขอเชิญชวนทุกคนมาร่วมคอร์สเรียน A-Z Mastery Midjourney กันนะครับ คอร์สนี้จะพาเพื่อนๆ เรียนรู้ตั้งแต่พื้นฐานไปจนถึงเทคนิคขั้นสูงในการใช้ Midjourney อย่างเป็นระบบ ครอบคลุมทุกแง่มุม ตั้งแต่ A ถึง Z เลยทีเดียว ตอนนี้แอดบิวเปิดให้ทดลองเรียนฟรีในบางบทเรียน [ลิงก์ลงทะเบียน] และแจก e-book “Midjourney Secret Techniques” ฟรีไปเลยครับ อย่าพลาดปล่อยตัวเองเสียโอกาส ที่จะสร้างสรรค์ผลงาดีๆ รวมถึงสร้างรายได้ครับเพื่อนๆ